กาวซีเมนต์ จระเข้ทอง สุดยอดกาวซีเมนต์สำหรับปูกระเบื้องขนาดใหญ่ ปูทับหลากหลายพื้นผิว
กาวซีเมนต์จระเข้ทอง มีผงลาเท็กซ์ที่เพิ่มประสิทธิภาพของกาวซีเมนต์ให้ดีขึ้น มีส่วนผสมของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ทราย และเคมีผสมเพิ่มชนิดพิเศษอื่นๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่ให้การยึดเกาะสูง มีการยืดหยุ่นที่ดี ทนทานในทุกสภาพภูมิอากาศ เหมาะใช้เป็นปูนกาวปูภายนอกอาคารโดยเฉพาะ ใช้ปูกระเบื้องเซรามิกทุกชนิด ปูหินอ่อน ปูแกรนิต ปูโมเสกแก้ว กระเบื้องแก้ว และใช้ปูทับกระเบื้องเดิม โดยไม่ต้องสกัดของเก่า ทั้งพื้นและผนังภายใน รวมทั้งสามารถใช้ปูบนพื้นผิวไม้อัดโครงสร้าง แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์
- ปูได้หลากหลายวัสดุกรุผิว ภายใน-ภายนอกอาคาร
- ปูกระเบื้องขนาดใหญ่มากทุกชนิด พื้นและผนังภายใน-ภายนอกอาคาร
- ปูหินอ่อน หินแกรนิต หินธรรมชาติ เรซิ่น กระเบื้องแก้ว พื้นและผนัง
- ปูทับได้ทั้ง กระเบื้อง ไม้อัดโครงสร้าง ไฟเบอร์ซีเมนต์
- ปูนกาวแรงยึดเกาะสูงพิเศษ ทนต่อแรงสั่นสะเทือน
ลักษณะการใช้งาน
กาวซีเมนต์ จระเข้ทอง เป็นปูนกาวที่เหมาะสำหรับงานปูกระเบื้องทุกชนิดและกระเบื้องขนาดใหญ่ ตลอดจนใช้ปูทับพื้นเดิมได้ สามารถใช้ได้กับ พื้นและผนังภายใน-ภายนอกอาคาร แรงยึดเกาะสูง ยืดหยุ่นสูง และทนต่อทุกสภาพอากาศ
มาตรฐานอเมริกา : ANSI A 118.1, ANSI A 118.4, ANSI A 118.11, ANSI A 118.15
สีของผลิตภัณฑ์ : สีเทา / สีขาว
ขนาดบรรจุ : 20 กิโลกรัม/ถุง
วิธีการใช้
การเตรียมพื้นผิว
- พื้นผิวใหม่ : พื้นผิวที่ต้องการปูจะต้องแข็ง เรียบ ได้ระดับ แห้งและสะอาด ปราศจากฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูน สิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ และมีการดูดซึมน้ำปกติ หากพื้นผิวผนังปูนฉาบใหม่หรือปูนปรับระดับใหม่ ควรใช้เวลาบ่มตามมาตรฐาน 7 วันหรือ 168 ชั่วโมง ต่อความหนา 1 ซม.
- พื้นผิวเดิม : ล้างทำความสะอาดพื้นผิวโดยใช้น้ำฉีด ขัดพื้นผิวให้สะอาด เพื่อขจัดคราบฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูน และสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ และกวาดน้ำที่ขังบนพื้นผิวให้หมดก่อนที่ใช้กาวซีเมนต์
- กรณีปูทับกระเบื้องเดิม : ต้องตรวจสอบความสามารถในการยึดเกาะ ระหว่างกระเบื้องและผิวคอนกรีต หากความสามารถในการยึดเกาะต่ำจึงต้องสกัดกระเบื้องเดิมทิ้ง
อัตราส่วนผสม
- ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้ทอง 20 กก. (1 ถุง) ต่อ น้ำ 5.60 ลิตร
- ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้ทอง 2.7 ส่วน ต่อ น้ำ 1 ส่วน (โดยปริมาตร)
การผสม
- เทปูนกาวซีเมนต์ จระเข้ทอง ลงในน้ำใช้เครื่องผสมรอบต่ำประมาณ 150 รอบต่อนาที (150 rpm) ช่วยในการผสมให้เข้ากัน
- ทิ้งไว้เพื่อให้เคมีบ่มตัวประมาณ 15 นาที จึงกวนซ้ำอีกครั้งก่อนนำมาใช้งาน อย่าเติมน้ำหรือกาวซีเมนต์ลงไปเพิ่มหลังจากที่ทิ้งไว้จนเคมีบ่มตัวแล้ว
การใช้งาน
- ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ลงบนพื้นหรือผนังที่ต้องการปูกระเบื้องให้ทั่ว และเพียงพอสำหรับกระเบื้องที่จะใช้ปูแต่ละครั้ง
- ใช้ด้านหวีปาดกาวซีเมนต์ให้เป็นร่อง โดยจับเกรียงหวีให้ได้มุมประมาณ 60 องศา และครูดให้เป็นรอยทางในทิศทางแนวเดียวกับด้านสั้นของกระเบื้อง (ใช้เกรียงหวีให้เหมาะกับขนาดกระเบื้อง)
- ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ไล้หลังกระเบื้อง เพื่อชดเชยความโก่ง หรือบิดตัวของกระเบื้องและให้มั่นใจว่าปูนกาวอยู่เต็มหลังกระเบื้อง ป้องกันการเกิดโพรงอากาศทำให้กระเบื้องที่ปูสามารถรับแรงกดอัดได้เต็มที่ ไม่แตก ล่อนในภายหลัง
- นำกระเบื้องปูบนกาวซีเมนต์ สไลด์แผ่นกระเบื้องไปทางขวางในทิศทางตั้งฉากกับแนวของเกรียงหวีที่ครูด เคาะกระเบื้องให้ติดแน่นกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น
- สามารถจัดกระเบื้องแต่ละแผ่นให้ตรงแนวตามต้องการภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิขณะทำงาน และไม่ควรจัดหรือเคาะกระเบื้องอีกเมื่อเลยเวลาดังกล่าว เมื่อกดกระเบื้องลงบนกาวซีเมนต์ ควรแน่ใจว่าหลังกระเบื้องสัมผัสกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น ซึ่งความหนาของกาวซีเมนต์ที่ปาดลงบบนพื้นผิวควรจะอยู่ระหว่าง 2-10 มม.
การบ่มและการยาแนวกระเบื้อง
- หลังจากปูกระเบื้องเสร็จแล้ว ควรบ่มทิ้งไว้ประมาณ 24-48 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับอุณหภูมิแล้วจึงยาแนวกระเบื้อง
- เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพสูงสุด ควรเลือกกาวยาวแนวจระเข้ให้เหมาะสมกับใช้ตามลักษณะของร่องและลักษณะของสถานที่
ข้อเสนอแนะ
- เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรยาแนวกระเบื้องหลังจากปูกระเบื้องไปแล้วไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมง
- เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ควรใช้กาวซีเมนต์จระเข้ ไล้หลังกระเบื้องให้ทั่วแผ่น
**หากต้องการปูพื้นผิวของวัสดุที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางบริษัทฯ
ข้อควรระวัง
- ผลิตภัณฑ์อาจทำให้เกิดผิวหนังระคายเคือง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยต่างๆ เช่น ถุงมือ หน้ากากกันฝุ่น แว่นตา ฯลฯ
- ในกรณีเข้าตาให้ล้างนัยน์ตาด้วยน้ำสะอาดหลายๆครั้งทันที และรีบปรึกษาแพทย์
- ถ้าถูกหรือสัมผัสกับผิวหน้าให้ใช้น้ำและสบู่ล้างทำความสะอาด
- ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
- ห้ามรับประทาน
- ควรเก็บไว้ในที่ร่ม แห้ง ปราศจากความชื้น และมีอากาศถ่ายเท อุณหภูมิไม่สูงจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อม
- อายุของผลิตภัณฑ์ 1 ปีนับจากวันที่ผลิตในสภาพยังไม่เปิดถุงใช้