การตกแต่งบ้านด้วยกระเบื้องโบราณ และการดูแลรักษากระเบื้องที่ถูกวิธี

ในการสร้างบ้านหรือออกแบบบ้านในแต่ละครั้ง เราล้วนอยากได้บ้านที่มีเอกลักษณ์และแสดงถึงตัวตนของผู้อยู่อาศัย และมีสไตล์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร เพื่อที่จะให้น่ามองและน่าอยู่อาศัยและมีอายุการใช้งานที่ยืนยาว การใช้กระเบื้องโบราณที่มีความโดดเด่น และมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์มีความเก่าที่เก๋ หรือ “วินเทจ” เข้ากับทุกยุคทุกสมัย ยิ่งทำให้ผู้คนเริ่มหันมาใช้กระเบื้องโบราณในแง่ของการทำให้สถานที่นั้น หรือบริเวณนั้น มี “เอกลักษณ์เฉพาะตัว” เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกและกลิ่นไอของความเป็น “บ้าน” ออกมาได้แทนผู้อยู่อาศัย

ตัวอย่างการตกแต่งบ้านด้วยกระเบื้องโบราณ

ลวดลายของกระเบื้องโบราณนั้น มีความเป็นเอกลักษณ์สูงมาก เนื่องจากมีจำนวนลวดลายที่จำกัด อีกทั้งยังให้ความรู้สึกของการเป็นมรดก การเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาหนึ่ง และเพิ่มความน่าดึงดูดให้บ้านหรือบริเวณที่ใช้

1. การใช้ในพื้นที่ที่มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว

ด้วยสีสันที่หลากหลายตลอดการออกแบบ เมื่อมีการสร้าง เห็นได้ชัดว่ามีความตั้งใจที่จะให้กระเบื้องทุกแผ่นในชุดนั้นเหมือนกันทุกประการ แต่ด้วยวัสดุและการผสมสีในกระเบื้องแต่ละชิ้นนั้น มีเฉดสีที่มีความละเอียดต่างกัน ทำให้แต่ละชิ้นนั้นมีลักษณะที่ต่างกันและย่อมทำให้กระเบื้องแผ่นนั้นมีความเฉพาะตัวและมีคุณค่า เหมาะแก่การนำไปใช้ในพื้นที่ที่ต้องการนำเสนอในมุมมองที่มีความเฉพาะตัว เช่น ทางเข้าหรือห้องน้ำ

2. สามารถใช้งานได้หลากหลายบริเวณของบ้าน

กระเบื้องโบราณมีประโยชน์การใช้งานที่หลากหลายมาก เนื่องจากสามารถใช้กับพื้น ผนัง หรือ เหมาะสำหรับพื้นที่ร้อนได้ เช่น รอบ ๆ เตาอบและบริเวณที่มีน้ำกระเซ็น อีกทั้งยังสามารถใช้ในห้องครัว ห้องน้ำ ห้องเก็บสัมภาระ และห้องเก็บของ รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ทั่วบ้านได้อีกเช่นกัน

3. การนำบรรยากาศความหรูหราในอดีตกลับมา

เนื่องจากในปัจจุบันนั้น ผู้คนเริ่มโหยหาความรู้สึกในอดีต หรือ “nostalgia” ไม่ว่าจะเป็นการใช้ฟิล์มถ่ายรูป, การดูหนังกลางแปลง เป็นต้น ย่อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถย้อนอดีต ที่สวยงามได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำกระเบื้องโบราณโทนสีน้ำตาล หรือสีส้มอิฐ มาใช้ควบคู่กับการตกแต่งสีเงินและสีทอง ที่หรูหราและมีระดับ ยิ่งทำให้เพิ่มความน่าอยู่และน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น

การดูแลรักษากระเบื้องที่ถูกวิธี

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การขัดถูกระเบื้องโบราณด้วยมือแบบเดิม ๆ นั้น ได้หมดเสน่ห์ไป อีกทั้งยังทำให้คราบสกปรกจะแทรกซึมเข้าไปผ่านรูพรุนบนกระเบื้อง จนเข้าไปลึกและสะสมอยู่ในพื้นผิว ทำให้พื้นผิวมีคราบสกปรกฝังแน่น อีกทั้งยังส่งผลให้แว็กซ์หรือสารเคลือบจะเสื่อมสภาพการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก จึงควรเป็นการทำความสะอาดด้วยความระมัดระวัง และมีวิธีที่ถูกต้อง ในการจัดการกับคราบสกปรกเหล่านั้น เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการทำให้สี หรือลวดลายที่เด่นชัดของกระเบื้องโบราณนั้นเสื่อมสภาพและจางหายไป

• ขั้นตอนแรก ควรใส่ถุงมือ PPE หรือถุงมือที่จะช่วยลดการสัมผัสกับสารอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้สัมผัสกับสารเคมี จากนั้นถ้าหากจะทำความสะอาดด้วยสารเคมีหรือน้ำยาทำความสะอาดพื้นที่มี Ph อ่อน ๆ ควรทำความสะอาดในบริเวณเล็ก ๆ ก่อนเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่า ถ้าหากใช้กับกระเบื้องทั้งหมดนั้น กระเบื้องโบราณจะไม่ได้รับความเสียหาย
• ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีความเป็นกรดอ่อน ๆ ในการถูหรือขัด โดยไม่ปล่อยทิ้งไว้ให้น้ำยาเหล่านั้นแห้ง เพราะอาจเกิดการกัดกร่อนนั้นเอง
• ควรมีเทคนิคการทำความสะอาดกระเบื้องหรือการถูที่มีลักษณะ หมุนวน และไม่ควรขัดแรงจนเกินไป หรือควรใช้แผ่นขัดล้าง ที่มีลักษณะเป็นวงกลม ผลิตจากเส้นใยไนลอนชนิดแข็งที่มีความทนทานเพื่อทำความสะอาด โดยในบริเวณที่มีคราบสกปรกน้อย ไม่ควรลงแรงที่มากเกินไป
• เมื่อทำความสะอาดพื้นอย่างทั่วถึงแล้ว ควรล้างด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้งเพื่อชะล้างความเป็นกรดอ่อน ๆ เหล่านั้น ให้มีความเป็นกลาง โดยต้องสังเกตว่ามีส่วนใดที่ยังทำความสะอาดไม่ทั่วถึงอีกหรือไม่
• ขั้นตอนสุดท้ายคือการสังเกตเพื่อมองหาข้อบกพร่อง เช่นหากมีรอยแตก หรือรอยร้าว ควรมีการซ่อมแซมต่อหรือไม่ อาจจะเป็นการเปลี่ยนกระเบื้องโบราณเหล่านั้น หรือรอดำเนินการซ่อมแซมและเรียกช่างต่อไป

ดังนั้นด้วยประโยชน์ที่หลากหลาย และการใช้งานกระเบื้องโบราณ ย่อมทำให้สถานที่ที่ใช้นั้นเกิดคุณค่า ทั้งในด้านของความสวยงามน่าค้นหา การมีเอกลักษณ์ของงานฝีมือ และมีความโดดเด่นเฉพาะตัว ล้วนแล้วแต่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถครอบครองไอเดียนั้นได้แต่เพียงผู้เดียว และยิ่งทำให้ผู้ที่ได้มาพบเห็น หรือมาเยี่ยมเยียน เกิดการจดจำและเป็นที่ประทับใจ ที่สำคัญนั้นยิ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่มีเรื่องเล่าอยู่ บอกผ่านกระเบื้องโบราณเหล่านี้อีกด้วย