5 วิธีตรวจสอบงานปูกระเบื้อง ได้คุณภาพจริงหรือไม่?

หนึ่งในเรื่องสำคัญก่อนการเซ็นรับมอบบ้าน คือ การตรวจสอบส่วนต่าง ๆ ว่าช่างทำงานได้ดีและเรียบร้อยแล้วหรือไม่ โดยส่วนที่ถือว่าสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นภายในบ้าน คือ งานปูกระเบื้อง เพราะถ้าการปูไม่ดีพอ ช่างไม่มีฝีมือหรือรีบเร่งในการปูพื้นหรือผนังมากเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาที่จะต้องเปลี่ยนกระเบื้องใหม่เกือบทั้งหมดได้เช่นกัน รวมไปถึงปัญหาอันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับคนในบ้านได้ ดังนั้นคุณจึงควรรู้วิธีการตรวจสอบงานปูกระเบื้องว่าจะได้คุณภาพจริงตามที่ช่างส่งงานหรือไม่

5 วิธีการตรวจสอบการปูกระเบื้องได้คุณภาพจริงไหม? ด้วยตัวคุณเอง

เมื่อคุณต้องตรวจสอบการปูกระเบื้องด้วยตัวเองจะไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าทำตามทั้ง 5 วิธีนี้ เพื่อช่วยให้คุณรู้ทันช่างว่ามีฝีมือจริงหรือไม่ และตรงตามที่ช่างส่งงานแค่ไหน โดยวิธีการตรวจสอบ คือ

1.ใช้สัมผัสมือและเท้า

วิธีแรกถือว่าง่ายสำหรับผู้ที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านงานกระเบื้องมากนัก คือ การใช้มือหรือเท้าในการทดสอบ เพียงแค่ใช้มือลูบไปบนกระเบื้อง ถ้าปูได้ดีจะมีความเรียบเนียนสม่ำเสมอกัน ไม่ทำให้รู้สึกว่าเป็นลูกคลื่นหรือใช้เป็นการเดินด้วยสัมผัสเท้าเปล่า เดินวนไปมาภายในห้อง เพราะเท้าจะให้สัมผัสของความเสมอหรือไม่สม่ำเสมอ ความเรียบเนียน หรือจุดสะดุดต่าง ๆ ได้ดี ยิ่งถ้าบริเวณใดมีการติดกระเบื้องที่ชิดกันมากเกินไปจะรู้สึกได้ค่อนข้างชัดเจน รวมไปถึงจุดที่ปูแล้วเป็นลูกคลื่น จะทำให้ได้สัมผัสของความไม่สม่ำเสมอที่หมายความว่าการปูยังไม่ดีพอและต้องรีบแก้ไข

2.ฟังจากเสียง

การฟังจากเสียงจะเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานสำคัญในการทดสอบที่จะชัดเจนขึ้นมาอีก 1 ขั้น โดยให้คุณใส่รองเท้าแล้วเดินไปบนพื้นกระเบื้องพร้อมตบเท้าเบา ๆ ไปเรื่อย ๆ หรือใช้เป็นลูกแก้วโยนลงพื้นแล้วฟังเสียง รวมไปถึงการใช้ด้ามของไขควงหรือสันของเหรียญเคาะพื้นกระเบื้องไปทีละแผ่น ถ้าเกิดเสียงที่ไม่เท่ากัน บางแผ่นอาจมีเสียงหนักหรือแน่น แต่บางแผ่นกลับเป็นเสียงกลวง สามารถสันนิษฐานได้เลยว่าการปูไม่สม่ำเสมอและมีโพรงอยู่ใต้กระเบื้องแน่นอน ดังนั้นต้องรีบให้ช่างแก้ไข เพราะถ้าไม่แก้จะกลายเป็นปัญหาหลุดร่อนหรือแตกเสียหายในอนาคตได้ค่อนข้างเร็ว

3.ตรวจสอบด้วยเหรียญ

นำเหรียญขนาดใหญ่อย่างเหรียญ 5 บาท หรือ 10 บาท วางตรงช่วงรอยต่อของแผ่นกระเบื้อง แล้วลองสังเกตดูว่าทั้ง 2 เหรียญอยู่ในระนาบที่เท่ากันหรือไม่ ถ้าวางไปแล้วเหรียญเกิดกระดกหรือเทไปที่ด้านใดด้านหนึ่ง นั่นหมายความว่าการปูพื้นไม่สม่ำเสมอกันและอาจเกิดโพรงใต้กระเบื้อง ซึ่งจะต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน

4.ดูร่องยาแนว

การตรวจสอบร่องยาแนวมีความสำคัญเช่นกัน เพราะถ้ามีความเหลื่อมกันหรือห่างกันมากเกินไป นอกจากจะทำให้ไม่สวยงามแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาได้ ซึ่งถ้ากระเบื้องถูกปูไม่เท่ากันหรือชิดจนกลายเป็นเกยกัน จะทำให้เห็นได้ค่อนข้างชัดเจนตรงบริเวณร่องยาแนว นอกจากนี้คุณควรใช้มือลูบไปที่ร่องยาแนว ถ้าเจอว่าเป็นฟองอากาศควรต้องให้ช่างรีบแก้ไข ไม่เช่นนั้นอาจจะนำพาให้แมลงและเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าไปฝังอยู่ในช่องอากาศนี้ แล้วพาให้เกิดความเสียหายได้ง่ายขึ้น โดยการเว้นระยะของช่องยาแนวจะต้องอยู่ที่ 2-3 มิลลิเมตร จึงจะถือว่าเหมาะสม

5.ตรวจสอบภาพรวม

สุดท้ายคือการตรวจสอบภาพรวมทั้งหมดของการปูกระเบื้อง โดยให้ตรวจสอบดูความถูกต้องของการปู, ร่องยาแนว, ความสะอาดโดยรวม, การใช้กาวซีเมนต์หรือการใช้ปูนทรายตรงตามมาตรฐานที่เจ้าของบ้านต้องการหรือไม่ เรื่องของความสะอาดจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงฝีมือของช่างและเป็นเรื่องของความเรียบร้อยในงานปูกระเบื้อง สามารถสื่อสารได้ถึงความตั้งใจในการทำงาน รวมไปถึงการตรวจสอบดูว่าวางลายและใช้สีกระเบื้องถูกต้องทั้งหมดหรือไม่ ต้องตรวจสอบไปถึงความเสียหาย รอยร้าว รอยบิ่น การวางแนวเหลื่อมหรือห่างเกินไปหรือไม่ และมียาแนวเต็มทุกช่องตรงตามที่ช่างส่งงานหรือไม่

ถ้าคุณต้องตรวจสอบงานปูกระเบื้อง สามารถใช้ทั้ง 5 วิธีนี้ในการนำไปตรวจสอบด้วยตัวคุณเอง เพื่อทำให้รู้ว่าช่างทำงานได้คุณภาพจริงแค่ไหน รวมถึงการตรวจสอบดูความเรียบร้อยและความเสียหายต่าง ๆ ถ้าเกิดมีรอยร้าว รอยแตก มีความเสียหายหรือการปูไม่ดีพอ ต้องรีบแก้ไขทันที! เพื่อไม่ให้ส่งผลไปถึงปัญหาใหญ่ในอนาคต