กระเบื้องลายไม้กับงานปูพื้น ข้อดี และวิธีดูแลรักษา

            กระเบื้องลายไม้ เป็นวัสดุทดแทนไม้จากธรรมชาติที่นิยมนำมาปูพื้นบ้านเพื่อสร้างบรรยากาศให้ภายในบ้านมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น และยิ่งเป็นอาคารหรือบ้านปูนก่อผนังด้วยอิฐเป็นหลัก การปูพื้นด้วยกระเบื้องลายไม้ยังช่วยลดความแข็งกระด้างของวัสดุโดยไม่ต้องใช้ไม้จริงจากธรรมชาติ สำหรับคนที่ชื่นชอบงานไม้ บทความนี้มีข้อดี ข้อด้อยและวิธีดูแลรักษากระเบื้องลายไม้กับงานปูพื้น มาแนะนำ

    กระเบื้องลายไม้กับงานปูพื้น ข้อดี และวิธีดูแลรักษา

กระเบื้องลายไม้กับงานปูพื้น เป็นวัสดุปูพื้นที่มีความสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ ลวดลายและโทนสีใกล้เคียงกับไม้จริงแต่ละประเภท นอกจากนั้นวัสดุกระเบื้องลายไม้ยังมีหลายชนิดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของงาน สามารถเลือกปูพื้นได้หลากหลายแบบทั้ง ผิวมัน ผิวด้าน ผิวหยาบ หรือผิวกึ่งมันกึ่งหยาบ ความแตกต่างของวัสดุปูพื้นไม้และกระเบื้องลายไม้มีความแตกต่างกัน ดังนี้

    คุณสมบัติของวัสดุปูพื้นไม้และกระเบื้องลายไม้

  • วัสดุพื้นไม้จริง ได้แก่ ไม้เนื้อแข็งจากธรรมชาติ ส่วนวัสดุกระเบื้องลายไม้ ได้แก่ ดินเหนียว ดินขาว หิน แร่ และส่วนผสมอื่น ๆ
  • ขั้นตอนการผลิต ไม้จริง ขั้นตอนการผลิตเกิดจากการนำไม้จริงมาแปรรูปตามขนาดที่ต้องการส่วน กระเบื้องลายไม้เกิดจากนำส่วนผสมมาเผาผ่านความร้อน จากนั้นนำมาเคลือบสีพิมพ์ลายไม้
  • ลวดลายหรือลายไม้ ไม้จริงลวดลายเกิดจากธรรมชาติมีความสวยงามแตกต่างกันตามประเภทของไม้ที่เลียนแบบ ส่วนลวดลายของกระเบื้องลายไม้ เกิดจากการพิมพ์ลายด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
  • วิธีปูพื้นหรือการติดตั้ง พื้นไม้จริงเริ่มจากการเตรียมพื้นผิวให้พื้นมีระนาบเดียวกัน ทำคานไม้แล้ววางพื้นไม้ ยึดด้วยสกรู ส่วนกระเบื้องลายไม้ติดตั้งด้วยกาวซีเมนท์และทำยาแนว

    วิธีการปูกระเบื้องลายไม้

กระเบื้องลายไม้กับงานปูพื้น นอกจากรูปแบบกระเบื้องลายไม้จะมีทั้งแบบทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสมาตรฐาน และทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแผ่นยาวเหมือนกับไม้ปูพื้นทั่วไปแล้ว ยังมีหลายขนาดให้เลือกได้ตามความเหมาะสม หรือตามต้องการตั้งแต่ขนาด 60 80 90 100 ไปจนถึง 120 เซนติเมตร สำหรับวิธีการปูกระเบื้องลายไม้ให้เกิดความสวยงามทำได้หลายวิธี ดังนี้

  1. ปูเรียงแถวเท่ากันแบบ 1 ต่อ 1 เป็นการใช้แผ่นกระเบื้องลายไม้แผ่นยาววางเรียงแถวในสัดส่วนที่ ช่วยให้ปูพื้นได้อย่างต่อเนื่องกันทั้งห้อง การปูด้วยวิธีนี้จะทำให้พื้นดูเป็นระเบียบสวยงาม
  2. ปูเหลื่อมกันแบบแบบ 1 ต่อ 3 หมายถึง การปูกระเบื้องลายไม้ โดยวางแผ่นกระเบื้องให้เหลื่อมจากแถวแรก 1 ใน 3 ส่วนของแต่ละแผ่น วิธีนี้นอกจากให้ความสวยงามอย่างเป็นระเบียบ ยังเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับการปูพื้นอีกด้วย
  3. ปูเหลื่อมกันแบบ 1 ต่อ 4 เป็นการปูกระเบื้องลายไม้ โดยการวางแผ่นกระเบื้องให้เยื้องกัน 1 ใน4 ส่วนของแต่ละแผ่น วิธีให้ความรู้สึกถึงความกว้างของพื้นห้อง
  4. ปูแบบก้างปลา หมายถึง การปูกระเบื้องลายไม้ในลักษณะเป็นแนวเฉียงจากเส้นแกนกลางสลับทิศทางกันซ้ายขวา ทำให้เกิดลวดลายเหมือนกับก้างปลา วิธีนี้ช่วยให้ได้บรรยากาศภายในห้องสวยงามแปลกใหม่

ข้อดี ข้อด้อย และวิธีดูแลรักษาการปูพื้นด้วยกระเบื้องลายไม้

  1. การปูพื้นด้วยกระเบื้องลายไม้ มีความคงทนกว่าพื้นไม้จริง หลายเท่า
  2. กระเบื้องลายไม้ หาง่ายและราคาถูกกว่าไม้จริง
  3. ทนต่อการถูกรบกวนของปลวกและแมลง
  4. การปูพื้นด้วยกระเบื้องลายไม้ ปลอดภัยจากอัคคีภัยได้มากกว่า เพราะติดไฟยากกว่าไม้ ติดไฟได้แต่ไม่ลุกลามเหมือนไม้
  5. กระเบื้องลายไม้ ดูแลได้ง่ายกว่ามีให้เลือกได้หลากหลายลวดลาย
  6. แต่มีข้อด้อย คือให้ผิวสัมผัสและความรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติเหมือนการปูพื้นด้วยไม้จริง
  7. สำหรับวิธีการรักษา การปูพื้นด้วยกระเบื้องลายไม้ดูแลง่าย เพียงเช็ดถูด้วยน้ำยาหรือน้ำเป็นประจำ ก็ทำให้พื้นสะอาดโดยไม้ต้องระวังเรื่องความชื้น

          

            งานปูพื้นเป็นขั้นตอนการตกแต่งที่มีความสำคัญทั้งงานตกแต่งภายนอกและภายใน การเลือกกระเบื้องปูพื้นลายไม้แทนการใช้ไม้จริง ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของคนที่ชื่นชอบงานไม้ ต้องการให้บรรยากาศภายในและภายนอกมีความเป็นธรรมชาติ แม้จะไม่ใช้ไม้จริงแต่ก็เป็นวัสดุทดแทนที่ให้ประโยชน์ครอบคลุมทุกมิติทั้งความสวยงาม ประหยัด มีหลากหลายลวดลายให้เลือกและหาง่ายกว่าไม้พื้นจากธรรมชาติ

Click to rate this post!
[Total: 0 Average: 0]